ทัวร์ออสเตรเลีย ตะลุยเกาะแคงการู วิคเตอร์ฮาร์เบอร์ และนอนพัก ณ ฟาร์มสเตย์พร้อมกับครอบครัว 5 คืน

วันที่ 1: แอดิเลด – ฮานดอร์ฟ – วิคเตอร์ ฮาร์เบอร์

ระยะทาง: ไปฮานดอร์ฟ (33 กม./ 40 นาที) ไปวิคเตอร์ ฮาร์เบอร์ (76 กม./ 1 ชั่วโมง)

เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินแอดิเลด คุณสามารถติดต่อขอรับรถได้ที่เคาน์เตอร์บริการของเฮิร์ซ ณ สนามบิน

หลังจากขับรถผ่านอุโมงค์เฮย์สัน (Heyson Tunnels) และเขตแอดิเลดฮิลล์ (Adelaide Hills) ที่สวยงาม ออกสำรวจเทือกเขาเมาน์ ลอฟตี้ ซัมมิท (Mt Lofty Summit) เพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของแอดิเลด จากนั้น ขับลงใต้ไปยังชายฝั่งมุ่งหน้าสู่เมืองฮานดอร์ฟ (Hahndorf) เดินทางต่อไปบนถนนหลวงผ่านถนนสายหลักเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยร้านช่างฝีมือ ร้านค้าปลีกร่วมสมัย และร้านอาหารที่มีสไตล์มากมาย ขับรถต่อไปอีก 5 นาทีมุ่งสู่เดอะ ซีดาร์ส (The Cedars) เยี่ยมชมมรดกทางวัฒนธรรมของเซอร์ฮันส์ ไฮเซนส์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงผู้ล่วงลับ หลังจากรับประทานอาหารกลางวันในฮานดอร์ฟ จึงเดินทางต่อไปยังวิคเตอร์ ฮาร์เบอร์ (Victor Harbour)

เมื่อมาถึงวิคเตอร์ ฮาร์เบอร์ แวะเช็คอินที่โรงแรม พักผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ คุณสามารถนั่งรถม้าลากจูงไปยังเกาะกราไนท์ (Granite Island) (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) ซึ่งเป็นบ้านของนกเพนกวินที่เล็กที่สุดในโลกที่เพื่อเข้าร่วมทัวร์กลางคืนในการชมขบวนนกเพนกวินน้อย (สามารถจอดรถได้ที่ท่าเรือ ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มเติม) ที่พากันขึ้นจากทะเลและเดินเตาะแตะกลับไปยังรัง (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) เดินทางกลับไปที่จอดรถหลังจากจบทัวร์

ค้างคืน ณ คอมฟอร์ท อินน์ วิคเตอร์ ฮาร์เบอร์

วันที่ 2: วิคเตอร์ ฮาร์เบอร์ – เกาะแคงการู

ระยะทาง: ไปแหลมจาร์วิส (61 กม./ 50 นาที)

หลังอาหารเช้า (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าสู่เกาะกราไนท์ (Granite Island) เพื่อสัมผัสประสบการณ์การว่ายน้ำกับเหล่าปลาทูน่า โดยขึ้นเรือสุดหรูที่จะนำคุณไปยังโอเชียนิก วิคเตอร์ (Oceanic Victor) ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาทูน่าขนาดใหญ่ คุณจะได้สวมชุดดำน้ำ รองเท้าบูท หน้ากาก และถุงมือเพื่อลงไปแหวกว่ายในทะเลกับปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินใต้ (Southern Bluefin Tuna) ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เรือเฟอร์รี่แห่งมหาสมุทร” สำหรับท่านที่ไม่อยากเปียก คุณสามารถให้อาหารปลาทูน่าหรือชมฝูงปลาทูน่าได้ที่จุดชมวิวที่ใต้น้ำที่เป็นกระจกใส ที่ศูนย์แห่งนี้ยังมีปลาสายพันธุ์ท้องถิ่นให้ชมอีกมากมาย พร้อมบ่อตื้นที่เด็กๆ จะสามารถสัมผัสปลาได้ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)

รับประทานอาหารกลางวันและขับรถต่อไปยังแหลมจาร์วิสเพื่อไปขึ้นเฟอร์รี่ไปยังเกาะแคงการู (จองเรือเฟอร์รี่ได้ตั้งแต่ 16:00 น. เป็นต้นไป)

เมื่อมาถึงเกาะแคงการู แวะเช็คอินเข้าสู่ที่พัก (ขับรถ 3 นาทีจากท่าเรือเฟอร์รี่)

ค้างคืน ณ แกงการู ไอส์แลนด์ ซีฟร้อนท์

วันที่ 3: เกาะแคงการู

หลังจากรับประทานอาหารเช้า (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) เดินทางไปยังเขตอนุรักษ์สิงโตทะเลซีล เบย์ (Seal Bay Conservation Park) เพื่อเข้าร่วมทัวร์พร้อมไกด์ในเวลา 09:45 น. (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) ซึ่งจะนำคุณไปชมสิงโตทะเลที่นอนเอกเขนกอยู่บนชายหาดอย่างใกล้ชิด คุณสามารถเดินไปตามทางเดินตามแนวชายฝั่งที่ยาวกว่า 800 เมตร ก่อนจะหยุดที่จุดชมวิวและเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของสิงโตทะเลที่อยู่ด้านล่าง จากนั้น ขับรถไปเล่นเเซนบอร์ดหรือกระดานทราย (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) ณ เนินทรายที่อยู่ไม่ไกล ระบบเนินทรายที่กินพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอ่าววิวอนน์เบย์ (Vivonne Bay) อันสวยงาม สำหรับผู้ที่รักความตื่นเต้นท้าทาย อาจลองขับควอดไบค์หรือพายเรือคายัคเพื่อเพิ่มความสนุก

หลังจากรับประทานอาหารเช้า (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติฟลินเดอร์สเชส (Flinders Chase National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ซึ่งคุณจะสามารถชมกลุ่มหินที่น่าอัศจรรย์ “รีมาร์กเอเบิล ร็อคส์” (Remarkable Rocks) และซุ้มหินโค้ง “แอดไมรัลส์ อาร์ค” (Admirals Arch) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยรีมาร์กเอเบิล ร็อกส์ เป็นประติมากรรมตามธรรมชาติที่ตั้งอยู่อย่างน่าหวาดเสียวบนลานหินกว้าง จากนั้นเดินทางไปยังแอดไมรัลส์ อาร์ค ระหว่างทาง คุณจะเห็นประภาคารเคป ดู คูอิดิก (Cape du Couedic Lighthouse) ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1906-1909 ซึ่งคุณสามารถชมความสวยงามของแอดไมรัลส์ อาร์คที่อยู่ใกล้กับจุดจอดรถของประภาคาร ซุ้มหินโค้งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกาะแคงการู ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลหลายพันปีจนกลายเป็นสะพานหินที่มีรูปร่างแปลกตา หากคุณเดินไปตามทางเดินริมทะเลไปสู่แอดไมรัลส์ อาร์ค คุณจะสามารถชมอาณาจักรแมวน้ำขนนิวซีแลนด์ที่กระจายอยู่โดยรอบและเพลิดเพลินไปกับการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของแมวน้ำเหล่านี้ โดยพื้นที่ใต้ซุ้มหินยังทำหน้าที่เป็นเสมือนสนามเด็กเล่นให้กับลูกแมวน้ำจำนวนมาก จากจุดนี้ คุณยังสามารถชมฝูงโลมาที่แสนฉลาดได้ตลอดทั้งปี และสามารถมองเห็นเหล่าวาฬที่กำลังอพยพย้ายถิ่นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนตุลาคมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แอดไมรัลส์ อาร์ค เป็นเพียง 1 ใน 27 อนุสาวรีย์ทางธรณีวิทยาอันน่ามหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่รอบๆ เกาะแคงการูเท่านั้น

เดินทางกลับที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย อย่าลืมสำรองที่นั่งสำหรับมื้อค่ำที่โรงแรม เพราะเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ให้บริการมื้อค่ำในคืนนี้

ค้างคืน ณ แคงการู ไอส์แลนด์ วิลเดอร์เนส รีทรีท

วันที่ 4: เกาะแคงการู – เพนเนชอว์ – แหลมจาวิส

ระยะทาง: ไปเพนเนชอว์ (133 กม./ 1 ชั่วโมง 45 นาที)

หลังจากรับประทานอาหารเช้า เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม มุ่งหน้าสู่คลิฟฟอร์ด ฮันนี่ ฟาร์ม (Clifford Honey Farm) ฟาร์มผึ้งแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1973 โดยเดฟ ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มและรังผึ้งอีก 2 รังในฐานะงานอดิเรกของเขา ต่อมาในช่วงปี 1980 เมื่อขนแกะมีราคาถูกลง เดฟและเจนนี่ก็เริ่มกระจายแหล่งรายได้โดยการขยายอุตสาหกรรมการผลิตน้ำผึ้งที่พวกเขาเพิ่งเริ่มต้น ก่อนจะเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการในปี 1993 และประสบความสำเร็จอย่างมากนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในปัจจุบันนี้ คลิฟฟอร์ด ฮันนี่ ฟาร์มมีรังผึ้งรวมๆ ประมาณ 300 รังและเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ด้วยความช่วยเหลือของลูกสาว ‘เบฟและชารอน’ และลูกเขย ‘โทนี่และเกร็ก’ ฟาร์มแห่งนี้จึงสามารถผลิตน้ำผึ้งได้มากถึง 20 ตันในแต่ละปี

จากนั้น ขับรถต่อไปยังเพนเนชอว์ (Penneshaw) เพื่อนั่งเฟอร์รี่กลับไปยังแหลมจาวิส เมื่อเดินทางถึงแหลมจาวิส มุ่งหน้าไปยังมอเรลลาฟาร์ม (Morella Farm) ที่อยู่ห่างออกไปราว 5 นาที มอเรลลาฟาร์มเป็นฟาร์มที่ยังคงดำเนินการอยู่ ประกอบด้วยปศุสัตว์มากกว่า 150 ตัวบนเนื้อที่กว่า 100 เอเคอร์ ซึ่งมีรั้วล้อมรอบอย่างมิดชิด เมื่อมองจากดาดฟ้าด้านหลัง คุณจะได้พบกับความสวยงามที่แท้จริงของฟาร์มแห่งนี้ โดยมอเรลลาฟาร์มยังให้บริการที่พัก ซึ่งประกอบด้วยห้องนอนเตียงคู่ 3 ห้อง (ห้องนอนที่ 1 และ 2: เตียงควีนไซส์ ห้องนอนที่ 3: เตียงสองชั้น 2 เตียง) บริเวณห้องนั่งเล่นและเลานจ์มีโซฟาเบดและโทรทัศน์จอแบนไว้คอยให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้เข้าพัก พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ทันสมัย ห้องอาบน้ำและห้องสุขาส่วนตัว รวมถึงเตียงเดี่ยวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักกลุ่มใหญ่ ภายในที่พักประกอบด้วยห้องครัวทันสมัย พร้อมอุปกรณ์ครบครันและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางแจ้ง อีกทั้งมีการติดตั้งระบบเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนสำหรับผู้ที่ต้องการความอบอุ่นอีกด้วย

ค้างคืน ณ มอเรลลาฟาร์ม

วันที่ 5: แหลมจาวิส – แอดิเลด

หลังจากรับประทานอาหารเช้า เพลิดเพลินไปกับการชมรอบๆ ฟาร์ม ก่อนที่จะขับกลับแอดิเลด ระหว่างทาง แวะเมืองแมคลาเรนเวล (McLaren Vale) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องในเรื่องการปลูกองุ่นสายพันธุ์ชีราซ (Shiraz) กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) เกรอนาจ (Grenache) แมร์โล (Merlot) และชาร์ดอนเน (Chardonnay) อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตมะกอก อัลมอนด์ ชีส และผลไม้หายากหลายชนิดอีกด้วย

เมื่อเดินทางถึงแอดิเลด เช็คอิน ณ ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค้างคืน ณ แฟรงคลิน เซ็นทรัล อะพาร์ตเมนต์ (การใช้บริการลานจอดรถของโรงแรมอาจมีค่าใช้จ่าย โปรดชำระโดยตรงกับที่พัก)

วันที่ 6: แอดิเลด

หลังจากรับประทานอาหารเช้า (นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง) เช็คเอาท์และมุ่งหน้าสู่สนามบินเพื่อคืนรถ ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ